รหัสสินค้า | SKU-00268 |
หมวดหมู่ | ผักออร์แกนิค |
ราคา | 49.00 บาท |
น้ำหนัก | 300 กรัม |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 12 ก.ค. 2566 |
อัพเดทล่าสุด | 29 พ.ค. 2567 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
มะระ หรือ มะระจีน ชื่อสามัญ Bitter melon, Balsam pear, Bitter cucumber, Bitter gourd
มะระ ชื่อวิทยาศาสตร์ Momordica charantia L. จัดอยู่ในวงศ์แตง (CUCURBITACEAE)
ต้นมะระจัดเป็นพันธุ์ไม้เลื้อยเขตร้อน เป็นพืชผักอาหารที่อยู่คู่กับคนเอเชียมาช้านาน โดยมะระแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ มะระขี้นก (ซึ่งเราได้กล่าวไปแล้วในบทความก่อน ๆ) และ มะระจีน (ซึ่งจะกล่าวในบทความนี้) ซึ่งเป็นที่นิยมนำมารับประทานมากกว่ามะระขี้นก
โดยข้อมูลจาก www.foodsdatabase.com ได้ระบุคุณค่าทางโภชนาการไว้ว่า ผลมะระ 1 ถ้วยหรือประมาณ 93 กรัม จะประกอบไปด้วย
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่
ถ้าไม่อยากได้มะระแก่ ๆ มาทำเป็นอาหาร เราควรสังเกตที่หนามของมะระให้ดี ถ้าหนามมีลักษณะแข็ง แสดงว่ามะระนั้นแก่เต็มที่แล้ว ไม่ควรซื้อมารับประทานเพราะจะมีรสขมมาก ๆ ให้เลือกซื้อที่หนามมีลักษณะอ่อนนิ่ม เพราะจะเป็นมะระที่มีอายุน้อยและไม่ขมมากจนเกินไป สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ก่อนนำไปประกอบอาหารให้นำมาแช่น้ำเกลือก่อนในอัตราส่วนเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำ 1 ลิตร โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วให้เทน้ำทิ้ง แล้วนำมาแช่น้ำเปล่าอีกครั้งประมาณ 10 นาทีก่อนจะนำไปประกอบอาหาร ก็จะช่วยลดความขมของมะระลงได้ และที่สำคัญก็คือในขณะที่กำลังประกอบอาหารด้วยการทำต้มอย่างจืด ไม่ควรจะเปิดฝาทิ้งไว้หรือคนบ่อย ๆ เพราะจะทำให้มะระขมได้นั่นเอง
ปกติแล้วมะระมีรสขมมาก (เนื่องจากมีสาร Momodicine) จึงไม่ควรรับประทานมะระที่ผลสุก (โดยผลสุกจะมีสีแดง แตกต่างกับผลแก่ที่เรารับประทานซึ่งเป็นสีเขียว) เพราะการรับประทานผลสุกอาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ เพราะมีสารซาโปนิน (Saponin) ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย และที่สำคัญไม่ว่าจะสุกหรือไม่ก็ตาม ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียได้ เพราะผลมะระมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
แหล่งอ้างอิง : www.bittermelon.org, www.thaihealth.or.th, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หน้าที่เข้าชม | 528,913 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 409,738 ครั้ง |