ข้อท้าทายของ “นักสร้างนวัตกรรม” เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงด้านอาหาร ทำอย่างไรจะตอบโจทย์ อาหารที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงหรือหายาก โดยเฉพาะการเข้าถึงอาหาร ประเภทออร์แกนิก มาดูตัวอย่างของ “ไข่ออร์แกนิก” กว่าจะได้มาตรฐานนี้มีขั้นตอนและความซับซ้อนในกระบวนการผลิตอยู่หลายปัจจัย
บทความโดย สัจจาวุฒิ รอดสำราญ[1]
การสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่าง Food Availability-Access-Utilization-Stability เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร กล่าวคือ อาหารที่ดีไม่จำเป็นต้องผลิตได้น้อย หายาก และมีราคาแพง
“อาหารออร์แกนิก” ที่ถูกกล่าวอ้างสรรพคุณด้านโภชนาการ และความปลอดภัย มีราคาที่สูงกว่าอาหารชนิดเดียวกัน ในท้องตลาด 3-4 เท่าตัว ทำให้“การเข้าถึง”อาหารออร์แกนิก จึงไม่ใช่เฉพาะผู้ที่รักสุขภาพ แต่รวมถึงเป็นผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี ด้วยเงื่อนไขและมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เป็นสาเหตุประการหนึ่ง ที่ทำให้อาหารออร์แกนิกมีราคาสูง ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ “ไข่ออร์แกนิก”
“ไข่ออร์แกนิก” จัดเป็นสินค้าเกษตร ตามพระราชบัญญัติสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 ซึ่งกฎหมายกำหนดว่า จะใช้คำว่า“ออร์แกนิก” หรือ“Organic” หรือ“อินทรีย์”ได้ ไข่ไก่นั้นจะต้องมาจากการเลี้ยง แบบปศุสัตว์อินทรีย์ (Organic Livestock) และผ่านการตรวจรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ : ปศุสัตว์อินทรีย์ (มกษ.9000 เล่ม 2-2561) ซึ่งมีเงื่อนไขหลายประการ จากตัวอย่าง
ขั้นตอนการเลี้ยงไก่ออร์แกนิก
-แม่ไก่จะต้องเกิดจากพ่อแม่พันธุ์ที่อยู่ในระบบเกษตรอินทรีย์
-ไก่นั้นต้องเกิดและถูกเลี้ยงในฟาร์มที่จัดการตามระบบเกษตรอินทรีย์ “ตลอดช่วงชีวิต”
-ต้องมีพื้นที่อิสระให้ไก่ได้เดินตามธรรมชาติ โรงเรือนไม่แออัด
-อาหารไก่ต้องผลิตจากวัตถุดิบในฟาร์มที่เลี้ยงไก่นั้นเองให้มากที่สุดหรือเป็นวัตถุดิบจากพื้นที่ระบบอินทรีย์
-มีสัดส่วนของสูตรอาหารและโภชนาการตามที่กฎหมายกำหนด ไก่ต้องไม่เครียด (บางแห่งจึงเรียกว่า แม่ไก่อารมณ์ดี)
-เน้นการป้องกันการเจ็บป่วยมากกว่าการรักษาผ่านวิธีการปฏิบัติในการผลิตที่ถูกต้อง (Good Manufacturing Practice : GMP) เช่น ใช้มุ้งลวด ตาข่ายเพื่อป้องกันศัตรูแทนการใช้สารเคมี การรักษาโรคเน้นใช้พืชสมุนไพร การบรรจุหีบห่อจะต้องป้องกันการสัมผัสกับผลผลิตที่ไม่ได้มาจากระบบอินทรีย์ เน้นการใช้วัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ต้องมีระบบควบคุมอุณหภูมิและป้องกันการปนเปื้อนในการขนส่ง
จากเงื่อนไขและมาตรฐานข้างต้น ทำให้ไข่ไก่ที่ผลิตได้ ยังมีปริมาณต่ำ เนื่องด้วยปริมาณไก่ไข่ถูกจำกัด ด้วยสัดส่วนของพื้นที่และโรงเรือน การกำหนดสูตรอาหารอินทรีย์ และงดการใช้สารเร่งการเจริญเติบโต ทำให้ปริมาณการออกไข่อยู่ราวร้อยละ 50-80 เท่านั้น นี่ยังไม่รวมต้นทุนด้านการขนส่งและด้านบรรจุภัณฑ์
ในห้วงที่เรากำลังสร้างความมั่นคงด้านอาหาร จึงเป็นข้อท้าทายของนักสร้างนวัตกรรมที่จะทำอย่างไรจึงจะคงความเป็น“ออร์แกนิก”ของไข่ไก่ตาม“Food Utilization”แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณ “Food Availability”เพื่อจะนำไปสู่ “Food Access” และ “Food Stability”
[1] น.บ.,น.ม.(กฎหมายระหว่างประเทศ) อาจารย์ประจำสำนักวิชาศึกษาทั่วไป สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา
อ้างอิงข้อมูลและChart ประกอบ
พระราชบัญญัติสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 มาตรา 3
พระราชบัญญัติคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ พ.ศ.2551 มาตรา 3
Swiss Agency for development and Cooperation SDC Strategy 2017 – 2020 Global Programme Food Security
Cr. http://omni-recipes.com/2020/01/21/1938/