กุ้งก้ามแดง ของขวัญจากพ่อหลวง ที่ทรงมอบไว้ให้กับเกษตรกรไทย

8 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ราคาสินค้าเกษตรร่วงยกแผง เกษตรกรต่างพยายามมองหาอาชีพใหม่ เพื่อหารายได้เพิ่มเติมจากสิ่งที่ทำอยู่ และการเลี้ยงกุ้งก้ามแดง หรือ เครย์ฟิช ก็กำลังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เกษตรกรหลายคนกำลังให้ความสนใจ

กุ้งก้ามแดง หรือ เครย์ฟิช หรือ ครอว์ฟิช หรือ ล็อบสเตอร์น้ำจืด (อังกฤษ: Crayfish, Crawfish, Freshwater lobsters , Crawdads , Mudbugs , Freshwater yabbies) เป็นกุ้งน้ำจืดจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างโดยรวมลำตัวใหญ่ เปลือกหนา ก้ามใหญ่แลดูแข็งแรง มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, โอเชียเนียและบริเวณใกล้เคียง เช่น อีเรียนจายา และเอเชียตะวันออก ปัจจุบันมีการอนุกรมวิธานเครย์ฟิชไปแล้วกว่า 500 ชนิด ซึ่งกว่าครึ่งนั้นเป็นเครย์ฟิชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ แต่ก็ยังมีอีกหลายร้อยชนิดที่ยังไม่ได้รับการอนุกรมวิธาน อีกทั้งหลายชนิดยังมีความหลากหลายทางสีสันมากอีกด้วย

สำหรับในประเทศไทยไม่มีกุ้งในลักษณะเครย์ฟิช ซึ่งกุ้งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่สุดที่พบในประเทศไทย คือ กุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ซึ่งในลักษณะกุ้งก้ามกรามนี้ ไม่จัดว่าเป็นเครย์ฟิช

เมื่อคนไทยมีการบริโภคเนื้อกุ้งก้ามแดงกันมากยิ่งขึ้น เกษตรกรก็มีการรวมกลุ่มกันเพื่อที่จะรวบรวมผลผลิตให้ได้ตามความต้องการของตลาด แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและกรรมวิธีในการเลี้ยงกุ้ง ที่ฟาร์มฮักก้ามแดง ของคุณอาร์ต วิศรุต ใจเมือง เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงที่สามารถสร้างรายได้ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

คุณอาร์ตเลี้ยงกุ้งก้ามแดงเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนแรกที่สนใจเลี้ยงกุ้งก้ามแดงก็เพราะได้ชมรายการโทรทัศน์ที่นำเสนอเรื่องราวของการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดง แล้วจึงเกิดความต้องการทืี่จะเลี้ยงบ้าง โดยในช่วงเริ่มแรกนั้นยังไม่ค่อยมีหนังสือหรือตำราสอนการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงมากนัก คุณอาร์ตจึงศึกษาข้อมูลจากสหกรณ์เขื่อนพระปรงและขอเข้าไปฝึกงานเพาะพันธุ์และจับกุ้งที่นั่น แล้วนำความรู้ที่ได้มาเริ่มสร้างบ่อกุ้งของตัวเอง

โดยคุณอาร์ตได้พาเราย้อนกลับไปให้เห็นถึงที่มาของการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงในประเทศไทย ซึ่งเริ่มจากการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงนำเข้ามาศึกษาทดลองการเลี้ยงในโครงการหลวงดอยอินทนนท์ โดยทรงริเริ่มส่งเสริมให้เกษตรกรชาวเขาเลี้ยงในนาข้าวเพื่อสร้างรายได้เสริมเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี

ที่ฟาร์มฮักก้ามแดงของคุณอาร์ต มีรูปแบบการเลี้ยงกุ้งก้ามแดง 2 รูปแบบ คือการเลี้ยงในบ่อพลาสติกที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และมีการใช้สแลนและท่อพีวีซีเพื่อเป็นที่หลบภัยและที่อยู่อาศัยให้กับกุ้ง โดยแบ่งบ่อเลี้ยงออกเป็นบ่อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และบ่อที่กำลังเจริญเติบโต ก่อนที่จะทำการย้ายลงไปเลี้ยงในกระชังและบ่อดินด้านนอกต่อไป

การเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ เนื่องจากกุ้งก้ามแดงเป็นกุ้งน้ำจืด มีการผสมพันธุ์กันเองภายในบ่อ คือต้องใส่ตัวผู้ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และกุ้งส่วนใหญ่เป็นตัวเมีย ช่วงที่กุ้งผสมพันธุ์สังเกตได้ว่าตัวผู้จะกินอาหารมากกว่าปกติ เมื่อเห็นกุ้งเริ่มอุ้มท้อง ลำตัวกุ้งตัวเมียจะงอรองรับไข่ใต้ท้องไว้ ควรแยกออกมาเลี้ยงต่างหาก รอให้กุ้งวางไข่ออกเป็นตัว แล้วจึงแยกพ่อแม่พันธุ์ออกภายใน 45 วัน ไข่กุ้งจะฟักเป็นตัว แม่หนึ่งให้ไข่มากถึง 800 ฟอง คัดแยกลูกกุ้งออกเลี้ยงในบ่ออนุบาล เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดบด ตรวจสภาพน้ำทุก 15 วัน ลูกกุ้งจะได้มากน้อยขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงว่าสามารถดูแลได้ดี ไม่ให้กินกันเอง ไม่ให้น้ำเสีย สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญ

การจำหน่ายกุ้งก้ามแดงสามารถจำหน่ายได้ตั้งแต่ฟักเป็นตัว เพราะตลาดมีความต้องการสูง แต่ที่ฟาร์มจะเลี้ยงลูกกุ้งไว้ 3-4 เดือน ให้มีขนาดใหญ่ 1.5 นิ้ว จะเริ่มจำหน่ายได้ ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดีจะมีลูกกุ้งจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดยใช้พื้นที่เล็กๆ ซอกข้างบ้านก็สามารถทำได้ ปัจจุบันมีรายได้จากการจำหน่ายลูกกุ้งแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ส่วนราคาที่จำหน่ายก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 900 บาท ส่วนขนาดใหญ่มากๆ ร้านอาหารใหญ่ๆ ต้องการมากคือ 4 ตัว 1 กิโลกรัมราคาจะอยู่สูงกว่านี้ ใช้เวลาเลี้ยง 1 ปีเศษ การเพาะเลี้ยงจำหน่ายที่บ้านมีน้องๆ นักเรียนนักศึกษา ผู้สูงอายุ ซื้อไปเลี้ยงดูเล่นกัน ในที่สุดก็เติบโตออกลูกจำหน่ายได้ ทำรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี

รับชมออนไลน์ได้ทาง -->https://www.youtube.com/watch?v=QgsFkExlGZ0

รายการ ตะวันรุ่ง
RSU Wisdom TV
มหาวิทยาลัยรังสิต

เผยแพร่เมื่อ 20 ม.ค. 2017

อาร์เอสยู วิสดอม ทีวี (RSU WisdomTV)
ทีวีแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต, http://www.rsutv.tv

รายการ ตะวันรุ่ง : กุ้งก้ามแดง...อาชีพใหม่รายได้ดี
แขกรับเชิญ : วิศรุต ใจเมือง

ออกอากาศวันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 8.00 น. ช่อง News1