“เราใช้กิจกรรมนำผู้ซื้อมาเจอผู้ผลิต” แนวคิดดีๆ ที่ฟาร์มโตะ

ปัจจุบันการทำเกษตรกรรมค่อนข้างจะลำบาก ถ้าไม่เลือกขายให้กับนายทุนใหญ่ก็ต้องขวนขวายหาทางขายเองซึ่งก็เป็นเรื่องยาก แต่วันนี้รายการตะวันรุ่งจะจูงมือทุกคนไปรู้จักกับเกษตรกรคนรุ่นใหม่เจ้าของ“ฟาร์มโตะ” ที่มีไอเดียแปลกแหกกฎการตลาดด้วยการสร้างกิจกรรมนำผู้บริโภคมาทำกิจกรรมร่วมกับเกษตรกร

นายอาทิตย์ จันทร์นนทชัย เจ้าของฟาร์มโตะเล่าให้ฟังว่า การที่ตั้งชื่อว่า “ฟาร์มโตะ” ทั้งที่ตัวเองชื่อ “โต” นั้นเป็นเพราะตนเองและเพื่อนอีก 2 คนอยากให้มีชื่อคล้ายญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนจากคำว่า “โต” เป็น “โตะ” ส่วนสาเหตุที่ทำฟาร์มแห่งนี้มีไอเดียที่อยากแก้ปัญหาเรื่องการเพาะปลูกของเกษตรกรที่ไม่มีตลาดในการขายสินค้า จึงได้ใช้แนวคิดเรื่องให้ผู้ปลูกได้พบกับผู้บริโภคเพื่อให้เกิดช่องทางการซื้อขายขึ้น โดยคนที่เข้าร่วมในกิจกรรมเพาะปลูกพืชส่วนใหญ่ก็จะเป็นสมาชิกที่รู้จักกันในเฟซบุ๊คที่อยากมีประสบการณ์ร่วมในการปลูกข้าว โดยกิจกรรมของฟาร์มโตะก็จะมีเกือบทุกเดือนหมุนเวียนกันไป เช่น เดือนนี้มีดำนา เดือนหน้าอาจมีการทำปุ๋ย เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ก็สามารถพัฒนาให้มีความสนุกพร้อมกับได้งานตามแนวทางเกษตรเชิงสร้างสรรค์ และนอกจากนาแล้วที่ฟาร์มโตะแห่งนี้ยังมีสวนรวมอยู่ด้วย แต่กิจกรรมหลักๆ จะเป็นการปลูกข้าวเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ในจำนวนมากและเป็นการสร้างช่องทางขายให้กับเกษตรอินทรีย์

นายอาทิตย์ เล่าต่อไปว่า สำหรับกลุ่มคนที่มาร่วมกิจกรรมของฟาร์มโตะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบครอบครัวแบบ พ่อ แม่ ลูก หรือบางทีก็มีการพาปู่ ย่า ตา ยายมาด้วยก็มี สำหรับไอเดียนี้จริงแล้วไม่ได้มีต้นแบบจากที่ไหน แต่เป็นแนวคิดที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องช่องทางการตลาด นอกจากนี้การที่เปิดโอกาสให้คนที่ร่วมทำกิจกรรมปักป้ายชื่อเป็นเจ้าของก็ยิ่งสร้างความรู้สึกภูมิใจในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรม และนอกจากปลูกแล้วยังมีกิจกรรมไปจนถึงการเกี่ยวข้าว นวดข้าว แม้กระทั่งการสีข้าวจนนำกลับไปทานที่บ้านก็ได้ โดยพันธุ์ข้าวที่ปลูกจะมี 2 สายพันธุ์ คือ ข้าวไรซ์เบอรี่และข้าวหอมปทุมข้าวคุณภาพดีที่จะนำไปสีเป็นข้าวกล้อง

“ก่อนที่จะทำฟาร์มโตะที่แห่งนี้เคยเป็นนาข้าวที่ใช้สารเคมีกันมาก่อน จนกระทั่งคุณแม่ได้ร่วมกันซื้อที่แห่งนี้เพื่อปลูกบ้านและทำสวน ซึ่งขณะนั้นพื้นที่รอบข้างก็ยังการทำนากันอยู่ โดยคุณแม่และคุณพ่อเคยไปลองขอซื้อข้าวเพื่อมารับประทานก็พบกับคำที่ชาวบ้านพูดว่า ซื้อข้าวได้แต่บอกไว้ก่อนว่าคนแถวนี้เค้าไม่กินข้าวที่ปลูกเอง แต่จะไปซื้อในห้างกินเพราะข้าวแถวนี้ปลูกด้วยระบบสารเคมี จึงทำให้เกิดคำถามว่าแล้วทำไมจึงไม่หันมาปลูกข้าวแบบปลอดสาร ชาวบ้านก็บอกว่าการปลูกข้าวปลอดสารไม่สามารถทำได้จริง จากนั้นทุกคนในบ้านจึงพยายามเรียนรู้เรื่องการทำนาแบบอินทรีย์จนสามารถทำได้จริงและทำให้ฟาร์มโตะแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชาวบ้าน แม้ช่วงแรกจะถูกคัดค้านจากชาวบ้านแต่ปัจจุบันชาวบ้านก็มีความเข้าใจเรื่องเกษตรอินทรีย์มากขึ้น” เจ้าของฟาร์มโตะกล่าว

นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อนาคตของฟาร์มโตะจะมีแนวคิดแบบสตาร์ทอัพที่จะขยายแนวคิดจากเพจในเฟซบุ๊คไปสู่เว็บไซต์ก่อนที่จะขยายตัวไปสู่แอพลิเคชั่น เพื่อสร้างสังคมให้กับเกษตรกรทั่วไปในการใช้ไอเดียแบบฟาร์มโตะด้วยการดึงผู้บริโภคให้มีกิจกรรมร่วมกับเกษตรกรเพื่อทำให้เรากลายเป็นซุปเปอร์มาเก็ตให้แก่ผู้บริโภค ที่ผ่านมาก็มีการไปทำความรู้จักกับฟาร์มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีไอเดียใกล้เคียงกับเราเพื่อดึงให้มาสร้างกิจกรรมร่วมกันเพื่อปูทางสู่การสร้างสังคมเกษตรสร้างสรรค์และทำให้เกษตรกรรมเป็นอาชีพที่ยั่งยืน

รับชมออนไลน์ได้ทาง --> https://www.youtube.com/watch?v=Qd8y12yXFfw